หนึ่งในหัวใจสำคัญของ
การเริ่มทำ Digital Transformation
คือ การนำข้อมูลที่มีภายในองค์กร
มาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
กระบวนการในการได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดขั้นตอนหนึ่ง หากข้อมูลนั้นมีความครบถ้วนสมบูรณ์และมีคุณภาพแล้ว การนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ต่อ จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ไม่ได้มีการนำข้อมูลมาใช้งานเป็นอย่างมาก
เราจึงจำเป็นจะต้องตื่นตัว ปรับเปลี่ยนกระบวนการการเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้งานต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงการนำระบบ Enterprise Resource Planning หรือระบบ ERP มาปรับใช้ เพราะระบบ ERP สามารถช่วยจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบ พร้อมนำไปใช้งานต่อได้ และยังถือเป็นคลังข้อมูลของธุรกิจที่จะทำการเก็บข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ด้วย
ช่วงต้นปี 2020 ทาง Gartner ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำวิจัยชั้นนำของโลกได้มีการจัดพิมพ์รายงาน 2020 Gartner CIO Survey ซึ่งเป็นผลสำรวจผู้บริหาร CIO ขององค์กรชั้นนำของโลก มีรายงานชุดที่กล่าวถึงกลุ่มองค์กรใน Asia Pacific หรือ APAC จำนวน 198 องค์กร โดยจุดประสงค์หลักของการสำรวจครั้งนี้คือ การรวบรวมข้อมูลจากผู้นำในแต่องค์กร ในเรื่องของผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีการสำรวจว่าองค์กรเหล่านี้ผ่านวิกฤติต่าง ๆ มาได้อย่างไร และปัจจุบันองค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร
จากผลสำรวจกลุ่มบริษัทในภูมิภาค APAC พบว่าส่วนใหญ่กว่า 88% ประสบปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดย 3 ประเด็นหลักพบว่า กว่า 46% ประสบปัญหาในเชิงโครงสร้างองค์กร (Organization Disruption) ที่เริ่มไม่รองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถัดมาคือ เรื่องของความกดดันทางด้านต้นทุนในการดำเนินการ (Serve Operating Cost Pressure) สืบเนื่องจาก Technology ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เปิดโอกาสให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้น ประกอบกับต้นทุนของบริษัทเหล่านั้นน้อยกว่า ทำให้สร้างความกดดันกลับไปที่องค์กรที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน ต้องบริหารจัดการต้นทุนของต้นเองเพื่อไม่ให้บริษัทใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น สามารถเข้ามากินส่วนแบ่งในการตลาดได้ ส่วนอันดับที่ 3 คือ เรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภค (Shifting Consumer Demand) โดยมีปัจจัยหลักมาจาก Digital Technology ที่เปลี่ยนไป ซึ่งการเข้ามาของ Technology ใหม่ ๆ นั้น สามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า สร้างความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานมากกว่าและที่สำคัญคือ มีต้นทุนที่ถูกกว่าด้วย
จากผลสำรวจ เราจะเห็นในเรื่องของสิ่งที่องค์กรเหล่านี้ให้ความสำคัญ ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าว ก็ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับธุรกิจของตนเอง เพื่อให้สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจของตนได้อยู่
การทำธุรกิจในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแบบนี้ 3 อันดับแรกที่ควรให้ความสำคัญ คือ เรื่องของ Digital Transformation ซึ่งผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า กว่า 48% ขององค์กรเหล่านี้ ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากทุกองค์กรตระหนักดีกว่า Digital จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปสถานการณ์ในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งโลกได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ทำให้เห็นได้ชัดว่า Digital เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก พร้อมกับเป็นตัวเร่งให้ทุกธุรกิจมีการปรับตัวโดยใช้ Digital เป็นตัวนำ อันดับถัดมาคือ เรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจากปัญหาที่พบจากผลสำรวจก่อนหน้านี้ ส่งผลให้องค์กรเหล่านี้ต้องกลับมาปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เน้นเรื่องของการสร้าง Productivity มากขึ้น และอันดับที่สามคือ เรื่องของการวางแผนเรื่องการควบคุมงบประมาณ การหาเงินลงทุนใหม่ ๆ และการควบคุมต้นทุน
Transformations are hard, and digital ones are harder
บริษัทที่ให้คำปรึกษากับองค์กรขนาดใหญ่อีกองค์หนึ่งคือ McKinsey & Company มี Research ที่ทางบริษัทได้ทำเกี่ยวกับเรื่องของ Digital Transformation โดยเฉพาะ ซึ่งจากจำนวนองค์กรทั้งหมดที่ McKinsey & Company ได้ไปสำรวจพบว่า มีองค์กรน้อยกว่า 30% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ซึ่งทาง McKinsey & Company ได้สรุปหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ที่น่าสนใจจากผลสำรวจนี้
ถึงแม้ว่าหัวข้อของการทำ Digital Transformations จะพูดถึงเรื่องของการนำ Digital Technology มาเป็นตัวนำองค์กร แต่ผลสำรวจนี้บ่งชี้ชัดเจนว่า หัวใจสำคัญกลับไม่ได้อยู่ที่เรื่องของการใช้ Technology แต่ 4 ใน 5 เรื่องกลับเป็นเรื่องของการสร้าง Direction, ความมีส่วนร่วมกันในองค์กรและ Partner เสียมากกว่า ถึงแม้บางองค์กรจะมีการนำ Digital มาใช้งานแล้วก็จริง แต่ก็ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้จริง นอกจาก Technology แล้ว เรายังต้องอาศัยความร่วมมือกันภายในองค์กรในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย
สิ่งที่องค์กรเหล่านี้คาดหวังว่าจะได้จากการทำ Digital Transformation คือ เรื่องของการลดต้นทุนในการดำเนินงานเพื่อให้สามารถยังคงแข่งขันได้ ถัดมาคือ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งบางองค์กรอาจจะนำ Digital เข้ามาเพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ดีขึ้น พร้อมกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในแบบที่คู่แข่งยังไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการปรับ Model ธุรกิจของตนเอง ซึ่งบางธุรกิจนั้นอาจจะไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต การเปลี่ยนแปลงตนเองนอกจากพัฒนาผลิตภัณฑ์ตนเองแล้ว อาจจะนำจุดแข็งของธุรกิจตนเองไปสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ได้เช่นกัน
Digital transformation starts from inside
โดยปกติแล้ว ในหลายองค์กรต้องมีการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงการทำ Digital Transformation ก็ไม่ได้ต่างจากการที่องค์กรต้องทำในเรื่องของการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองจากภาพใหญ่แล้วจะมีด้วยกัน 3 เรื่องคือ เรื่องของกระบวนการทำงาน (Process) ทำอย่างไรถึงจะสามารถสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานที่มีอยู่ให้ดีขึ้นได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง, เรื่องของบุคคลกร (People) ทำอย่างไรให้บุคคากรมีความรู้ความสามารถมากขึ้น และเรื่องของเทคโนโลยี (Technology) ในการจะมาช่วยการทำงานของคนง่ายขึ้น
ซึ่ง 3 องค์ประกอบนี้ มีความสำคัญและเกี่ยวเนื่องกันอยู่ People จะเป็นส่วนที่ดำเนินงานตาม Process ที่วางไว้ หาก Process ดีคนก็ทำงานง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ People ยังทำให้เกิดการพัฒนา Technology ให้ดีขึ้นอีกด้วย โดยในส่วนของ Technology จะเป็นส่วนที่ช่วย Process การทำงานให้สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้แตกต่างกันคือ สิ่งที่องค์กรต้องคาดหวังที่จะได้รับ
ส่วนที่ Digital Transformation จะจากแตกต่างจากการพัฒนาองค์กรคือ การที่แต่ละส่วนมีการ Generate Data ของตัวเอง ดังนั้น สิ่งองค์กรคาดหวังคือ การเก็บรวบรวม Data ให้ได้มากขึ้นในทุกกระบวนการเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาหาข้อมูลเชิงลึก (Insight) ต่อไป โดยการเก็บข้อมูลลักษณะนี้ จำเป็นต้องมีการนำเอา Technology เข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานด้วย ดังนั้น หัวใจอย่างหนึ่งของการทำ Digital Transformation ในองค์กรคือ การตระหนักในเรื่องของการนำ Data ไปใช้งานในองค์กรให้มีประโยชน์สูงสุด เราเรียกองค์กรเหล่านี้ว่าเป็น "องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล" หรือ Data Driven Organization นั่นเอง
จะเห็นได้ว่า Digital Transformation มีความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจที่สูง และการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับตัวองค์กรเอง และพนักงานที่เป็นผู้ใช้งานจริงก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน หากธุรกิจของคุณสามารถจับทางถูกแล้ว เชื่อได้ว่าจะต้องสามารถแข่งขันในโลกยุคปัจจุบันนี้ได้อย่างแน่นอน
ทำไม Digital Transformation ถึงมีความสำคัญกับองค์กรยุคใหม่