Odoo เป็นระบบ ERP
ที่เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจของเราได้
Odoo มีชื่อเสียงในเรื่องของระบบที่เป็น Open-source ERP อันดับต้น ๆ ก็ว่าได้ (Open-source อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เป็น Software ที่ใครสามารถเอาไปใช้ หรือพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
แต่ตัว Odoo นั้น จะบอกว่าเป็น Open-source ทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่ Odoo มีทั้งหมด 2 Version คือ Community Version กับ Enterprise Version ซึ่งตัวที่เป็น Open-source เราจะเรียกว่า Community Version ส่วน Enterprise Version จะเป็นตัวที่ทาง Odoo เขาทำเสริมเพิ่มขึ้น โดยจะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์มากขึ้น หน้าตาระบบที่สามารถใช้งานง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่ตัว Enterprise Version ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม จะมีการคิดค่าใช้จ่ายคือ ค่า License เพิ่มเติมเข้ามา โดยค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ขึ้นอยู่ที่จำนวนผู้ใช้งานในองค์กรเรา (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $
13.50 USD ต่อเดือน/ต่อ 1 ผู้ใช้งาน) สามารถใช้งานได้หมดทุกแอปพลิเคชัน
ซอฟต์แวร์ Odoo มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเบลเยี่ยม โดยเริ่มแรกเดิมทีนั้น ก็ยังไม่ได้ใช้ชื่อว่า Odoo แบบปัจจุบันนี้ บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Tiny ERP หรือ Open ERP มาก่อน ซึ่งชื่อที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็คือ Odoo นี่แหละ
ข้อดีของ Odoo
ด้วยความที่เป็น Open-source Software ทำให้มีนักพัฒนาสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาระบบ พัฒนาฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ขึ้นมาจากเดิมที่ Odoo มีให้ รวมถึงเข้ามาช่วยปิดช่องโหว่ต่าง ๆ ที่ Odoo มีด้วย นอกจากนี้ สิ่งสำคัญเลยก็คือ Odoo ไม่มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของ License ทำให้ตัวระบบนี้เป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไป หรือธุรกิจในระดับ SMEs ไม่น้อยเลย แถมการพัฒนาระบบ Odoo ขึ้นมาเพิ่มเติมนั้นก็ไม่ได้พัฒนายาก โดย Odoo ใช้ภาษาในการพัฒนาอย่างภาษา Python ที่เป็นที่นิยมกันในวงการนักพัฒนาอีกด้วย ทำให้ซอฟต์แวร์ Odoo มีภาษีที่ดีกว่าในการที่จะจ้างนักพัฒนามาช่วยปรับปรุงระบบ เมื่อเทียบกับ ERP เจ้าใหญ่ ๆ ในตลาด อย่างเช่น SAP หรือ Microsoft Dynamics เป็นต้น
Odoo ใช้ภาษา Python ในการพัฒนา
นอกจากนี้ ด้วยความที่ Odoo เป็น Web Based Application อยู่แล้ว ทำให้เราสามารถเข้าถึงระบบเพื่อจัดการองค์กรของเราจากที่ไหนก็ได้ ด้วยอุปกรณ์อะไรก็ได้ ขอเพียงแค่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ทำให้เราสามารถบริหารจัดการ ดึงข้อมูลมาตรวจสอบได้อย่าง Realtime
ส่วนข้อสังเกตของระบบ Odoo นี้ หลัก ๆ จะมีในเรื่องของฟีเจอร์ที่มีให้ในตัว Community Version ที่ทำมาให้มาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเบื้องต้น แล้วก็จะมีเรื่องของบัญชี ด้วยความที่ Odoo เ-าเป็นระบบที่มาจากประเทศเบลเยี่ยม เลยอาจจะมีเอกสารบางประเภทที่กรมสรรพากรไทยต้องการ แต่ระบบ Odoo ยังไม่มีรองรับ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะต้องมีการปรับระบบเพิ่มเติม หรือบริหารจัดการกันนอกระบบ แต่เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา Roots เรามีได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อว่า BEECY เป็นระบบ ERP ที่ใช้ Odoo เป็นฐานในการพัฒนา มีการปรับปรุงฟีเจอร์ให้รองรับกับบัญชีไทย และสามารถออกเอกสารทางบัญชีได้ครบถ้วนตามที่กรมสรรพากรกำหนด
ทาง Roots เองเป็น Odoo Official Partner มาอย่างยาวนานและมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบนานมากที่สุดของประเทศไทย โดยเริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2014 เรายินดีให้คำปรึกษาและคำแนะนำเกี่ยวกับระบบ Odoo หากใครสนใจนำระบบ Odoo ERP มาใช้งานในองค์กร ติดต่อเราได้เลย คลิก!
Odoo ERP คืออะไร?