AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการองค์กรได้อย่างไร

ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการองค์กรจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กลายเป็นความจำเป็น และหนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็คือ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์
11 เมษายน ค.ศ. 2025 โดย
Roots Team

​AI เป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์กับมนุษย์เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงการทำงาน การบริหารจัดการธุรกิจ ไปจนถึงเป็นตัวช่วยในชีวิตประจำวัน ใครที่อยากจะรู้เรื่องราวของ AI มากขึ้น ว่า AI คืออะไร ตามไปอ่านบทความที่เราเคยเขียนได้|

บทความแนะนำ:

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ได้ที่
AI (Artificial Intelligence) คืออะไร ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึง

ในปัจจุบัน ​​​AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังสามารถทำนายแนวโน้ม วางแผนการผลิต จัดการทรัพยากรบุคคล ไปจนถึงช่วยในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด


​บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า AI สามารถเข้ามามีบทบาทในกระบวนการบริหารจัดการองค์กรได้อย่างไร และองค์กรของคุณจะสามารถนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ในการแข่งขันที่ดุเดือดบนโลกของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


บทบาทของ AI ในการบริหารจัดการองค์กร

AI คืออะไร

​AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบกระบวนการการคิดของมนุษย์ สามารถวิเคราะห์ และตัดสินใจได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ ในปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ มักนำ AI เข้ามาใช้งาน เนื่องจาก AI เป็นตัวช่วยที่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 

	​AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์

ตัวอย่างของเทคโนโลยี AI ที่มักนำมาใช้ในองค์กร



  • Machine Learning (ML) เทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้จากข้อมูลและสามารถพัฒนาได้เอง เช่น ช่วยในการคาดการณ์ยอดขาย การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เป็นต้น
  • Natural Language Processing (NLP) ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ ตีความ และโต้ตอบกับภาษาที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการเขียน เช่นระบบแปลภาษาอัตโนมัติอย่าง Google Translate, Siri ของ Apple ที่เป็นผู้ช่วยค้นหาจากเสียง, Chatbot ที่คอยตอบคำถามลูกค้า หรือระบบวิเคราะห์ความคิดเห็นลูกค้า ซึ่งเป็นการตรวจสอบอารมณ์จากข้อความ เป็นต้น
  • Computer Vision เทคโนโลยีที่ช่วยให้ AI สามารถมองเห็น วิเคราะห์ และตีความข้อมูลจากภาพและวิดีโอได้เหมือนกับมนุษย์ เช่น การตรวจสอบคุณภาพสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม, ระบบตรวจจับใบหน้าบน Smartphone หรือรถยนต์ไร้คนขับที่ต้องรู้จักสัญญาณจราจร เป็นต้น
  • Robotic Process Automation (RPA) ระบบอัตโนมัติที่ช่วยทำงานซ้ำ ๆ แทนมนุษย์ เช่น การจัดการเอกสาร การป้อนข้อมูล หรือการตอบอีเมลอัตโนมัติ เป็นต้น
  • AI-powered Predictive Analytics ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดหรือพฤติกรรมลูกค้าล่วงหน้า ทำให้ผู้บริหารสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ดีขึ้น
  • AI-driven Cybersecurity ถูกนำมาใช้เพื่อระบุภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติและป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ เป็นต้น

Robotic Process Automation (RPA)

AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการองค์กรในด้านใดบ้าง?

​AI ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก คาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และยกระดับการให้บริการลูกค้าได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบุคลากร การตลาด การจัดการซัพพลายเชน หรือการให้บริการหลังการขาย

​การบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Management)

​AI สามารถช่วยสรรหาและคัดเลือกพนักงาน วิเคราะห์ประวัติผู้สมัครจากเรซูเม่และโปรไฟล์ เพื่อค้นหาคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน พร้อมแนะนำแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน แนะนำหลักสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละคนตามทักษะและเป้าหมายขององค์กร นอกจากนี้ AI ยังสามารถทำนายพฤติกรรมเสี่ยงของพนักงานที่อาจลาออก ช่วยให้องค์กรวางแผนรับมือได้ล่วงหน้า ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น

​AI จึงไม่ใช่เป็นแค่เครื่องมือเทคโนโลยี แต่ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญขององค์กรในการดูแลและพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้อย่างยั่งยืน

AI เข้ามาช่วยด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Management)

​การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ (Data Analytics)

​ในการบริหารองค์กร การตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ ซึ่งในการตัดสินใจได้ดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ “ข้อมูล” เป็นพื้นฐาน เมื่อข้อมูลที่เราเก็บมีปริมาณที่มากขึ้นและหลากหลาย การวิเคราห์ข้อมูลด้วยมนุษย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ AI จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการช่วยวิเคราห์ข้อมูล

​AI สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้ภายในระยะเวลาอันสั้น พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวโน้ม คาดการณ์ยอดขายหรือความต้องการของตลาด วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึก (insights) ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยประเมินความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรสามารถวางแผนกลยุทธ์แก้สถานการณ์ได้อย่างทันถ้วงที

​AI ช่วยเปลี่ยนการตัดสินใจจากเดิมที่อิงประสบการณ์หรือความรู้สึก มาเป็นการตัดสินใจจากข้อมูลจริง ช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาส และสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ

​การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและกระบวนการอัตโนมัติ (Automation)

​หนึ่งในบทบาทสำคัญของ AI ในการบริหารจัดการองค์กรคือ การช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และทำให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งช่วยลดภาระงานซ้ำที่ต้องทำซ้ำ ๆ ช่วยให้ประหยัดเวลา ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

​ตัวอย่างการนำ AI มาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบจัดการเอกสารอัตโนมัติ ใช้ AI ในการสแกน อ่าน และจัดหมวดหมู่เอกสาร เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ โดยไม่ต้องใช้แรงงานคน, ระบบ Workflow อัตโนมัติ ที่ช่วยติดตามสถานะงาน ประสานงานระหว่างแผนก และแจ้งเตือนงานที่ล่าช้าแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซ้ำ ๆ ช่วยให้ทีมสามารถโฟกัสกับการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์แทน

​AI ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้องค์กรสามารถพัฒนานวัตกรรม ช่วยลดต้นทุน สร้างคุณค่า ทำให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว

AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและกระบวนการอัตโนมัติ (Automation)

การบริการลูกค้า (Customer Service)

​การบริการลูกค้าที่รวดเร็ว ตรงใจ และมีคุณภาพคือ หัวใจของความสำเร็จในยุคที่มีการแข่งขันสูง และ AI กำลังกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น 

​AI จะมาช่วยในการให้บริการลูกค้าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น Chatbot ช่วยตอบคำถามพื้นฐานหรือให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระทีมซัพพอร์ท และเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า, ระบบแนะนำสินค้า มี AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า และแนะนำสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจ ช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มความประทับใจกับประสบการณ์ส่วนบุคคลที่ลูกค้าได้รับ, ช่วยวิเคราะห์ความคิดเห็นลูกค้า ช่วยประมวลผลรีวิว ความคิดเห็น หรือข้อความในโซเชียลมีเดีย เพื่อตรวจสอบความพึงพอใจและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้า ทำให้ผู้บริหารสามารถนำกลับมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการได้ดียิ่งขึ้นได้ และระบบติดตามและแจ้งเตือนอัตโนมัติ เช่น การแจ้งสถานะการจัดส่ง การนัดหมายบริการหลังการขาย หรือการตอบรับคำร้องขอแบบอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดี

​AI ทำให้การให้บริการลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีในแบรนด์ และอยู่กับองค์กรในระยะยาว

AI ช่วยในด้านการบริการลูกค้า (Customer Service)

การบริหารซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ (Supply Chian & Logistics)

​ซัพพลายเชน (Supply Chain) เป็นหนึ่งในระบบสำคัญขององค์กรที่มีความซับซ้อนสูง ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า ซึ่งในการทำงานของทุกขั้นตอนนั้น ล้วนต้องการความแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด


​AI สามารถช่วยในด้านต่าง ๆ ของซัพพลายเชน เช่น การคาดการณ์ความต้องการสินค้า (Demand Forecasting) AI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายย้อนหลัง พฤติกรรมลูกค้า และปัจจัยภายนอก เพื่อทำนายความต้องการได้แม่นยำ ลดปัญหาสินค้าคงคลังเกินหรือล้น, การจัดการสต๊อกสินค้า ช่วยแนะนำระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสมโดยอิงจากข้อมูลแบบเรียลไทม์, การวางแผนการขนส่ง AI จะคำนวณเส้นทางที่ดีที่สุด ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และลดระยะเวลาในการจัดส่ง เป็นต้น


​การนำ AI มาใช้ในซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ จะช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนและบริหารจัดการได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอน

AI ช่วยในการบริหารซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ (Supply Chian & Logistics)

บัญชีและการเงิน (Accounting and Finance)

​AI ช่วยบันทึกบัญชีอัตโนมัติ สามารถอ่านใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ และเอกสารทางการเงินได้ แล้วบันทึกข้อมูลเข้าระบบอย่างถูกต้อง ลดความผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์, ช่วยตรวจสอบความผิดปกติทางการเงิน วิเคราะห์ธุรกรรมที่น่าสงสัย ค่าใช้จ่ายที่ไม่ปกติ เพื่อป้องกันการทุจริต, ช่วยวิเคราะห์งบการเงิน แนวโน้มรายรับ รายจ่าย กำไร หรือสภาพคล่อง คาดการณ์กระแสเงินสด เพื่อช่วยวางแผนการเงินบริษัทในระยะสั้นและระยะยาว และช่วยจัดทำรายงานทางการเงินอัตโนมัติ เพื่อลดเวลาในการรวบรวมข้อมูลและการจัดทำรายงาน ทำให้ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและทันต่อการตัดสินใจ

​AI ไม่เพียงช่วยให้งานบัญชีและการเงินดำเนินไปอย่างระบบมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำ ความโปร่งใส และช่วยสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

AI ช่วยในการจัดการบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance)

การตลาด (Marketing)

​ในโลกของการตลาดที่มีการแข่งขันสูง AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกลยุทธ์การตลาด ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า หรือการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ

​AI ช่วยในการการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics) วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ความชอบ การซื้อสินค้า และการเข้าใช้งานเว็บไซต์ เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อที่ตรงใจ, ช่วยในการโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Ads) สามารถสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการค้นหาและการซื้อสินค้า ช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า, ช่วยวิเคราะห์ผลแคมเปญ (Campaign Performance Analysis) ช่วยติดตามและประเมินผลของแคมเปญโฆษณาแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์หรือพฤติกรรมของแคมเปญได้ทันทีเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ นอกจากนี้ AI ยังสามารถสร้างคอนเทนต์ (Content Generation) สร้างรูปภาพหรือบทความได้อย่างรวดเร็ว

​การนำ AI มาใช้ในการตลาดจะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณในการโฆษณา และสามารถปรับตัวตามความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

AI เข้ามาช่วยด้านการตลาด (Marketing)

อนาคตของ AI กับการบริหารจัดการองค์กร

​ในอนาคตอันใกล้ AI จะมีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคอุตสาหกรรม มนุษย์ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พัฒนาระบบอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า ช่วยสร้างกลยุทธ์ธุรกิจที่ดีขึ้น และช่วยในการตัดสินใจให้มีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้นจากข้อมูลที่วิเคราะห์ ​ดังนั้น ทุกองค์กรในปัจจุบันควรเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับเทคโนโลยี AI นี้ วางนโยบาย เริ่มศึกษาการนำ AI มาใช้ในการทำงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของตน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เตรียมการฝึกอบรมพนักงาน และปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี AI เพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันในตลาดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

บทสรุป

AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารองค์กรในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน หรือช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ยังมีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าใช้จ่าย ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการพัฒนาและบำรุงรักษา ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการปรับตัวของพนักงานต่อเทคโนโลยีใหม่ องค์กรที่ต้องการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพควรวางแผนให้ดี ศึกษาเทคโนโลยีอย่างรอบคอบ และเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากร เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว


สนใจนำ Odoo ERP มาใช้ในองค์กร

Roots Team 11 เมษายน ค.ศ. 2025
แชร์โพสต์นี้
แท็ก