เรามาทำความรู้จักกับ Odoo กันก่อน Odoo เป็นระบบ ERP ที่รวมแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทางธุรกิจ ไว้บนแพลตฟอร์มเดียวมากกว่า 40,000 Community App ตั้งแต่ระบบงานขาย, CRM, eCommerce, ระบบบัญชี, ระบบคลังสินค้า และอีกมากมาย
Odoo มีชื่อเสียงในเรื่องของระบบที่เป็น Open Source ERP อันดับต้น ๆ ของโลก ที่นักพัฒนาสามารถเอาไปใช้ หรือพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะบอกว่า Odoo เป็นซอฟต์แวร์ Open Source ทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Odoo คืออะไร?
Odoo มีทั้งหมด 2 Version คือ
1. Odoo Community Edition (CE)
2. Odoo Enterprise Edition (EE)
Odoo Community Edition และ Odoo Enterprise Edition มีความแตกต่างในด้านฟีเจอร์และการสนับสนุน แต่ทั้งสองเวอร์ชันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ
แล้วเราควรเลือก Odoo เวอร์ชันไหนมาใช้กับธุรกิจของเราให้เหมาะสมมากที่สุด?
Odoo Community VS Odoo Enterprise เลือกใช้เวอร์ชันไหนดี
Odoo Community Edition
Odoo Community เป็นซอฟต์แวร์ Open Source สำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่ทุกคนสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟ มีฟีเจอร์พื้นฐานและฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย โดยสามารถปรับแต่งและขยายระบบได้ด้วยตัวเองผ่านการเข้าถึงโค้ดต้นฉบับ ทำให้ Developers สามารถร่วมพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ โดยใช้ภาษา Python ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการนักพัฒนา
Odoo Enterprise Edition
Odoo Enterprise เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันที่ต้องชำระเงินค่า Subscription ที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี แล้วแต่แพ็กเกจที่เลือก มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง มีฟีเจอร์การทำงานที่พัฒนาให้ตอบโจทย์กับธุรกิจมากขึ้น มาพร้อม UX/UI ที่สร้าง Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งานทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ
เปรียบเทียบ ‘Odoo Community’ และ ‘Odoo Enterprise’ แตกต่างกันอย่างไร
Odoo Community | Odoo Enterprise | |
ค่าใช้จ่าย | ใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งหรือการใช้งาน | มีค่าใช้จ่ายในการใช้งานและการติดตั้งเป็นค่า Subscription |
ฟีเจอร์ | มีฟีเจอร์พื้นฐานที่ครอบคลุมการทำงานทั่วไปของธุรกิจ เช่น การจัดการคลังสินค้า การขาย จัดซื้อ บัญชีและการเงิน และการบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นต้น | มีโมดูลและฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมมากขึ้นกว่า Community Edition เช่น การใช้งาน Barcode, การใช้งานผ่าน Mobile App, การจัดการโครงการขั้นสูง และการผลิต เป็นต้น |
ความยืดหยุ่น | เป็นซอฟต์แวร์ Open Source สามารถปรับแต่งและขยายระบบได้ตามความต้องการของธุรกิจ | มีข้อจำกัดในการปรับแต่ง เนื่องจากเป็นเวอร์ชันเชิงพาณิชย์ ทำให้ไม่สามารถปรับแต่งระบบได้มากเท่ากับ Community Edition ที่เป็น Open Source |
การสนับสนุน | มี Odoo OCA ที่เป็น Community ของนักพัฒนาที่คอยอัปเดตฟีเจอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ และแชร์ความรู้ต่าง ๆ สำหรับผู้ที่สนใจระบบ Odoo รวบถึงมีการรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อช่วยในการตัดสินใจ | มีการสนับสนุนทางเทคนิคจากทีม Odoo SA โดยตรง มีการอัปเดตเวอร์ชันเป็นประจำทุกปี ทำให้ผู้ใช้งานได้ฟีเจอร์ใหม่อยู่ตลอด และสามารถใช้งาน https://odoo.sh/ Cloud Platform ได้อีกด้วย |
ขนาดธุรกิจ | เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง, สตาร์ตอัป หรือธุรกิจที่ต้องการใช้ฟีเจอร์พื้นฐานในการจัดการทรัพยากรต่าง ๆ โดยไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานซอฟต์แวร์มากนัก | เหมาะกับธุรกิจที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะทาง ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงและการสนับสนุนที่ครอบคลุมมากขึ้น |
บทสรุป...
Odoo Community VS Odoo Enterprise เลือกใช้เวอร์ชันไหนดี
การเลือกใช้ Odoo Community Edition หรือ Odoo Enterprise Edition ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ ความต้องการ และงบประมาณที่มี หากธุรกิจมีความต้องการใช้งานฟีเจอร์พื้นฐาน Odoo Community Edition จะเป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่า แต่หากธุรกิจต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง และการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง Odoo Enterprise Edition อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่หากธุรกิจต้องการระบบที่ตอบโจทย์ และตรงกับความต้องการของธุรกิจให้มากที่สุด แน่นอนว่า Odoo Community Edition เป็นตัวเลือกที่น่าเหมาะสมสำหรับธุรกิจที่ต้องการระบบที่มีความเฉพาะสูง เพราะสามารถปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น
Odoo Community VS Odoo Enterprise เลือกใช้เวอร์ชันไหนดี